10 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นสุดพิเศษ ในฤดูร้อน
ประเทศ ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลซึ่งในแต่ละฤดูกาลจะมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ซึ่งฤดูร้อนที่ ญี่ปุ่น จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม ท่านควรเลือกเครื่องแต่งกายที่ให้ความโปร่งสบาย เช่น เสื้อเส้นใยธรรมชาติ เสื้อผ้าแบบบางที่สามารถระบายอากาศได้ดี และสิ่งที่ไม่ควรลืมคือ ครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด ร่ม และอาจจะเตรียมเสื้อคลุมติดไปด้วยหากไปในสถานที่มีอากาศเย็นสบาย อย่างเช่น ฮอกไกโด และตามหุบเขาต่างๆ
โดยในครั้งนี้ทาง Journeytrip ขอนำเสนอ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ญี่ปุ่น สุดพิเศษ ในฤดูร้อน เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกท่านในการไปท่องเที่ยวประเทศ ญี่ปุ่น ได้อย่างครบรส
1.ถนนสายดอกไม้ ที่ฟุราโนะ
(Flower Drive in Furano)
ฮอกไกโด | Hokkaido
เรียกได้ว่าเป็นฟาร์มที่ดังเรื่องที่มีทุ่งดอกๆไม้ที่สวยงามจนเลื่องชื่อมากๆทีเดียวเชียวค่ะ ซึ่งที่ฟาร์มแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง” เนื่องจากมีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย
ฟาร์มโทมิตะโด่งดังมากๆเรื่องดอกลาเวนเดอร์(Lavender)ที่ไม่ว่าใครที่ตั้งใจจะมาเที่ยวก็ต้องมุ่งเป้าหมายมาที่ทุ่งนี้ โดยดอกลาเวนเดอร์นิยมปลูกในภูมิภาคฮอกไกโดมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทุ่งดอกไม้ขนาดต่างๆ มีอยู่ทั่วเมืองฟูราโน่(Furano) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้มาชมความงดงามของทุ่งดอกไม้อยู่จำนวนมาก ซึ่งช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มที่ คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่ดอกลาเวนเดอร์จะคงบานอยู่ในกลางสิงหาคม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อีกมากมายหลายชนิดในฤดูอื่น เช่น ดอกป๊อปปี้ และดอกลูปิน ในเดือนมิถุนายน ดอกลิลลี่ ในเดือนกรกฎาคม ดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน โดยไม่เสียค่าเข้าชม
2.หาดโจโดงาฮามะ
(Jodogahama Beach)
อิวะเตะ | Iwate
หาดโจโดงาฮามะ (Jodogahama Beach) ได้รับการยกย่องให้เป็นจุดชมวิวที่สวยแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ชมความงามจากชายฝั่งทะเลซังริคุ (Sanriku) งดงามด้วยทัศนียภาพของต้นสนสีเขียวและผาหินสีขาวสะอาดตาตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล พร้อมด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นปกคลุมอยู่ด้านบน ทำให้เกิดเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามมาก ช่วงที่มีการเปิดหาดให้ลงเล่นน้ำได้ในฤดูร้อนคือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคมหาดแห่งนี้มีความโดดเด่นจากน้ำทะเลที่ใสสะอาด ได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูร้อน บริเวณใกล้เคียงมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการ เช่น ห้องอาบน้ำ ร้านค้า และพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่พากันมาเล่นน้ำทะเลท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
3.โยโกฮามะ มินะโตะมิไร
- (Yokohama Minatomirai)
คะนะงะวะ | Kanagawa
เมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน ตามโรงแรมและห้างร้านต่างๆ บริเวณริมหาดจะเปิดเป็นเบียร์การ์เดนซึ่งจะครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่มาเอร็ดอร่อยกับเบียร์และบาร์บีคิวพลางเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของท่าเรือโยโกฮามะ (Yokohama Port) เป็นบรรยากาศที่บอกถึงการมาเยือนของฤดูร้อน นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคมก็จะมีการจัดงานเทศกาล แสดงดอกไม้ไฟเหนือท้องทะเลและขบวนพาเหรดเรือที่ได้รับความนิยมมาก
4.เดินป่าที่คามิโคจิ
(Hiking at Kamikochi)
นะงะโนะ | Nagano
คามิโคจิ (Kamikochi) ในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการยอมรับว่ามีทิวทัศน์ทางธรรมชาติแสนวิเศษของญี่ปุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านรีสอร์ทบนเนินเขาที่โดดเด่น เมื่อชมจากสะพานคัปปะ (Kappa Bridge) บนระดับความสูง 1,500 เมตร สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาโฮทะกะ (Hotaka) และยอดเขายะเคะ (Yakedake) ได้ด้วยตาเปล่า และยังเพลิดเพลินกับการเดินเล่น ถ่ายรูปไปกับธรรมชาติที่สวยงามได้อีกด้วย
คะมิโคจิเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและสามารถไปพักแรมโดยการตั้งแคมป์ตามจุดต่างๆ โดยมีจุดเด่นคือแหล่งน้ำพุร้อน คะมิโคจิอนเซ็น (Kamikochi Onsen) และ นะกะโนะยุอนเซ็น (Naka-no-Yu Onsen)
5.พาราไกลดิ้งพร้อมวิวฟูจิ
(Paragliding with view Fuji Mt.)
ชิซุโอกะ | Shizuoka
ที่ราบสูงอะซะงิริ (Asagiri Kogen) ในเมืองฟูจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอกะ (Fujinomiya City, Shizuoka) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสันทนาการขนาดใหญ่บนเชิงเขาฟูจิฝั่งตะวันตก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ มากมายรวมถึงสถานที่ตั้งแคมป์ ความอุดมสมบูรณ์ของภูเขาไฟฟูจิทำให้ที่ราบสูงอะซะงิริมีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมฟาร์มโคนมเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงควรลองหาโอกาสชิมชีสอร่อยๆ และซอฟต์ครีมแบบเข้มข้นดูให้ได้ นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่สามารถเก็บภาพภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านสวยงามอยู่เบื้องหน้าพร้อมฝูงวัวที่กำลังกินหญ้าอยู่อย่างสบายอารมณ์
สำหรับกิจกรรมที่แนะนำเป็นพิเศษก็คือการเล่นร่มร่อน หรือ พาราไกลดิ้ง (Paragliding) ซึ่งจะต้องอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมากและรับลมได้ดี ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเล่นพาราไกลดิ้งคือ ช่วงกลางฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิอยู่ตรงหน้า แนะนำให้เลือกเล่นแบบมีครูฝึกผู้ชำนาญการประกบอยู่ด้านหลัง (Tandem-flight Paragliding) เพื่อที่จะสามารถบินจากพิกัดความสูงที่ 300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้ โดยให้ครูฝึกเป็นผู้ควบคุมอุปกรณ์ สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเหินไปบนท้องฟ้ามาก่อน ก็สามารถสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการเล่นพาราไกลดิ้งแบบฉายเดี่ยว โดยบินจากภูเขาขนาดย่อมที่ความสูงราว 22 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยจะมีครูฝึกคอยให้คำแนะนำก่อนการเล่น
6.น้ำตกนะชิ (Nachi Falls)
วากายะมะ | Wakayama
เมืองนะชิคัตซึอุระ (Nachi-Katsuura Town) ในจังหวัดวากายะมะ (Wakayama) ซึ่งเป็นดินแดนแห่งมรดกโลกเส้นทางคุมะโนะโคะโด นั้น เป็นเมืองที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติยิ่งใหญ่ทรงพลังราวกับยกเอาทิวทัศน์ของญี่ปุ่นในสมัยโบราณมาไว้ในยุคปัจจุบัน
สัญลักษณ์ของเมืองนะชิคัตซึอุระ แห่งนี้ก็คือ “น้ำตกนะชิ (Nachi Falls)” สูง 133 เมตรที่ตกลงมาจากกลางป่าทึบดึกดำบรรพ์ น้ำตกที่ไหลต่อเนื่องชั้นเดียวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นแห่งนี้พาเอาละอองที่ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้รู้สึกเย็นสบายแม้ในช่วงกลางฤดูร้อน เมื่อมองขึ้นไปจากศาลเจ้าฮิโร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฐานน้ำตกแล้ว ไม่เพียงแต่จะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกแห่งนี้เท่านั้น หากแต่ยังจะได้รู้สึกสดชื่นราวกับน้ำตกได้ชำระล้างจิตใจให้สะอาดผ่องแผ้วไปด้วย น้ำที่ไหลตกลงมานี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นยาอายุวัฒนะ” ซึ่งสามารถดื่มได้จริง ใกล้กับน้ำตกแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดเซกันโทจิ ที่งดงามโดดเด่นด้วยเจดีย์สามชั้นสีแดงชาดตัดกับน้ำตกนะชิ
7.แม่น้ำชิมันโตะ (Shimanto River)
โคชิ | Kochi
แม่น้ำชิมันโตะ (Shimanto River) ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดโคชิ (Kochi) เป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) มีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 200 กิโลเมตร เนื่องจากสายน้ำแห่งนี้ใสสะอาด ไร้การรบกวนจากน้ำมือมนุษย์จนแทบจะเรียกได้ว่าบริสุทธิ์โดยธรรมชาติจริงๆ จึงอุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งมีชีวิตต่างๆ มากมายและงดงามด้วยทัศนียภาพของท้องทุ่งชนบท ทำให้ที่นี่เปี่ยมด้วยเสน่ห์แห่งบรรยากาศที่สามารถสัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงผูกพันระหว่างผู้คนกับสายน้ำ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสะพานแบบที่เรียกว่า สะพานจิงกะ (Chinka Bridge) ซึ่งเป็นสะพานเตี้ยๆ ไม่มีราวจับอยู่หลายแห่ง ภาพของสะพานจิงกะที่ทอดตัวกลมกลืนไปกับธรรมชาตินั้นเรียกได้ว่าเป็นภาพที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของแม่น้ำชิมันโตะ (Shimanto River) เลยทีเดียว
8. เทศกาลดอกไม้ไฟกลางน้ำแห่งมิยะจิมะ
(Miyajima Water Fireworks Festival)
ฮิโรชิมะ | Hiroshima
เกาะมิยะจิมะ (Miyajima Island) ในจังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima) มีสัญลักษณ์อันโด่งดังคือประตูโทริอิสีแดงสดที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล ด้วยบรรยากาศที่ดูเร้นลับชวนพิศวง ทำให้สามารถดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก บนเกาะมิยะจิมะมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น เที่ยวนมัสการศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยะจิมะ (Miyajima Public Aquarium) และยังสามารถไปชิมอาหารท้องถิ่นชื่อดังอย่างหอยนางรมย่างและโมมิจิมันจู (ขนมเค้กพื้นเมืองรูปทรงใบเมเปิ้ล ภายในสอดไส้ชนิดต่าง ๆ) ที่ถนนสายช้อปปิ้งโอโมเตะซันโด
เทศกาลดอกไม้ไฟกลางน้ำแห่งมิยะจิมะ คือหนึ่งในเทศกาลใหญ่ที่สร้างสีสันให้กับฤดูร้อนของเกาะมิยะจิมะ (Miyajima Island) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima) จัดขึ้นเป็นประจำในเดือนสิงหาคมของทุกปี และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมมากถึงปีละ 300,000 กว่าคน โดยมีการแสดงดอกไม้ไฟมากถึง 5,000 นัด หนึ่งในนั้นมีการแสดงดอกไม้ไฟกลางน้ำ (Water Fireworks) สุดงดงามถึง 200 นัด โดยจะจัดไว้บนเรือแล้วลอยลำอยู่กลางทะเล เมื่อถึงเวลาจุดดอกไฟให้เจ้าหน้าที่ก็ทำการบังคับจุดดอกไม้พุ่งแฉลบเฉียงลงไปในทะเล จากนั้นดอกไม้ไฟก็จะระเบิดเมื่ออยู่ใต้น้ำ แตกตัวเป็นประกายไฟสวยงามโผล่พ้นผิวน้ำเพียงครึ่งเดียว สถานที่จัดจะอยู่หลังประตูศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ซึ่งดอกไม้ไฟที่ระเบิดปะทุขึ้นจากท้องทะเลยิ่งทำให้ประตูโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่กลางทะเลนี้ทวีความงามขึ้นจนดูราวกับภาพในความฝันเลยทีเดียว
9.หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge)
มิยะซะกิ | Miyazaki
หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ทางตอนเหนือในจังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเสริมดวงชะตายอดนิยมในหมู่สาวๆ หน้าผาชันสูงเฉลี่ย 80 เมตร (บางช่วงสูงมากถึง 100 เมตร) ทอดตัวเป็นแนวยาวถึง 7 กิโลเมตรจนกลายเป็นหุบเขาที่งดงามประทับใจ เพียงแค่ได้เดินไปตามทางเดินชมวิวแล้วชื่นชมกับทัศนียภาพรอบๆ ก็จะรู้สึกราวกับได้รับการชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาดจากการได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่อันทรงพลังของธรรมชาติ
กิจกรรมที่แนะนำ คือการชมความงามของหุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) โดยการพายเรือผ่านน้ำตกมะนะอิโนทาคิ (Manainotaki) ที่มีความสูงถึง 17 เมตร ซึ่งมีความงามที่โดดเด่นและเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาทะคะจิโฮะแห่งนี้ เมื่อพายเรือเข้าไปใกล้บริเวณฐานน้ำตกจนกระทั่งเปียกปอนไปด้วยน้ำที่กระเด็นมาจากของน้ำตกแล้วก็จะได้รู้สึกถึงความอลังการน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
บริเวณหุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) มีสถานที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ศาลเจ้าทะคะจิโฮะ (Takachiho Jinja) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ที่นี่มีต้นสนสองต้นยืนคู่กันและลำต้นด้านบนรวมเป็นต้นเดียว กลายเป็นที่ขอพรยอดนิยมของสาวญี่ปุ่นในเรื่องคู่ครองและความรัก จากหุบเขาทะคะจิโฮะสามารถต่อรถบัสไปประมาณ 15 นาทีแล้วเดินต่อไปยังศาลเจ้าอะมะโนะอิวาโตะ (Ama-no-Iwato) ผู้ให้กำเนิดตำนานเทพธิดาแห่งแสงอาทิตย์และมีตำนานว่าเป็นที่ประชุมของเทวดาแปดล้านองค์ ถ้ำมีความลึก 25 เมตร ปากถ้ำกว้าง 30 เมตร มีความเชื่อกันว่าหากวางหินเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ได้แล้วสิ่งที่อธิษฐานจะเป็นจริง
10.เซะนะกะจิมะ อุมิคะจิ เทอเรส
(Senagajima Umikaji Terrace)
โอกินาวะ | Okinawa
เกาะเซะนะกะจิมะ (Senagajima Island) ซึ่งสามารถขับรถไปจากสนามบินนาฮะ (Naha Airport) ถึงภายในเวลาเพียง 15 นาทีนั้น นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางไปได้แสนสะดวกแห่งหนึ่งจากเกาะหลักโอกินาวะ (Okinawa Main Island) เพราะเป็นเกาะที่เชื่อมกับเกาะหลักด้วยถนนใต้น้ำความยาวราว 600 เมตร
ส่วนอุมิคะจิเทอเรส (Umikaji Terrace) คือชื่อของศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่สร้างอยู่บนเนินเขาลาดเอียงบนเกาะเซะนะกะจิมะ (Senagajima Island) ตั้งอยู่เลยจากรันเวย์สนามบินนาฮะ (Naha Airport) เพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น จึงสามารถมองเห็นเครื่องบินได้ในระยะใกล้มากราวกับกำลังบินเฉียดศีรษะไปเลยทีเดียว ภาพของอาคารสีขาวสะอาดตาหลายหลังที่ตั้งอยู่ลดหลั่นกันบนพื้นลาดเอียงตัดกับสีของท้องฟ้ากว้างและสีโคบอลต์บลูของน้ำทะเลดูโดดเด่นงดงามชวนให้เคลิ้มและปลอบประโลมจิตใจได้เป็นอย่างดี ช่างเหมาะกับฤดูร้อนเสียจริงๆ
อ้างอิงจาก : https://www.talonjapan.com/ และ https://www.jnto.or.th/
สำหรับฤดูร้อนในญี่ปุ่นท่านควรเลือกเครื่องแต่งกายที่ให้ความโปร่งสบาย เช่น เสื้อเส้นใยธรรมชาติ เสื้อผ้าแบบบางที่สามารถระบายอากาศได้ดี และสิ่งที่ไม่ควรลืมคือ ครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด ร่ม และอาจจะเตรียมเสื้อคลุมติดไปด้วยหากไปในสถานที่มีอากาศเย็นสบาย อย่างเช่น ฮอกไกโด และตามหุบเขาต่างๆ และสำหรับท่านใดที่สนใจ ต้องการดูโปรโมชั่น ทัวร์ญีปุ่น หรือต้องการจองตั๋วเครื่องบิน หรือที่พักสามารถสอบถาม Journey Trip ของเราได้ตลอด เรามีโปรแกรมให้ท่านเลือกมากมาย รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ให้ Journney Trip ดูแลคุณสิคะ
โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น คลิกที่นี่
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
📞 HOTLINE 064-794-2725 📞 บุ๊ค 064-993-8369 📞 นิว 094-665-5461
☎ Tel : 02-245-5690 ☎ Tel : 02-245-5691 ☎ Fax. : 02-245-5690
👨👩👧👧 ติดต่อกรุ๊ปเหมา : 📞 อีฟ 061-636-9983
Email : journeytrip18@gmail.com
Line : คลิกเลย –> https://line.me/R/ti/p/%40journeytrip18
Website : https://www.journeytrip18.com/
Leave a Reply