จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้องไปเยือนในฮอกไกโด
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโด (Hokkaido) เริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน จนถึง เดือนตุลาคม ของทุกปี โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวกลายเป็นสี เหลือง ส้ม แดงไปตามทุกหนทุกแห่งทั่วทั้งเกาะ ซึ่งจังหวัดฮอกไกโดนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเวลาคลื่นอากาศหนาวที่พัดผ่านจะเริ่มเย็นก่อนภูมิภาคอื่น ทำให้เป็นจุดที่แรกๆของญี่ปุ่นที่สามารถชมความงานของธรรมชาติในฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสี สำหรับสถานที่ชอบใบไม้เปลี่ยนสีในฮอกไกโดจะมีอยู่หลายแห่งทั่วทั้งภูมิภาค ในครั้งนี้ทางเราจะแนะนำ 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ โซอุนเคียว / โจซังเค / อุทยานแห่งชาติโอนุมะ เป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายและสวยงามเป็นที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
โซอุนเคียว (Sounkyo),ฮอกไกโด
โซอุนเคียว (Sounkyo) เป็นเมืองอนเซ็นเล็กๆ ตั้งอยู่กลางหุบเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง เป็นเมืองที่มีแม่น้ำอิชิคาริ พาดผ่าน และมีน้ำตกหลายสายในบริเวณนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมต้นไม้ทั้งหุบเขาจะเปลี่ยนสีโอบล้อมเมืองเล็กๆ แห่งนี้ให้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาชมความงานของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีได้เข้ามาเยี่ยมเยียนและพักผ่อนกับบรรยากาศแสนพิเศษที่ธรรมชาติรังสรรค์มาให้ได้เยี่ยมชม
น้ำตกกิงกะ / น้ำตกริวเซ (Ginga Falls/Ryusei Falls),ฮอกไกโด
![autumn-spot-hokkaido-2019-03 autumn-spot-hokkaido-2019-03](https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2019/08/autumn-spot-hokkaido-2019-03-500x333.jpg)
น้ำตกกิงกะ (Ginga Falls) และน้ำตกริวเซ (Ryusei Falls) อยู่ห่างจากเมืองโซอุนเคียว (Sounkyo) เพียง 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่อยู่คู่กันสองสายจากฝาสูงกว่า 100 เมตรลงมาสู่แม่น้ำอิชิคาริ (Ishikari River) น้ำตกสองคู่เป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกที่สวยในญี่ปุ่น และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสายน้ำของน้ำตกทั้งสองสายนี้จะให้ภาพที่ตัดกับใบไม้ที่มีสีสันสดใส วิวที่แสนพิเศษของน้ำตกกิงกะ (Ginga Falls) และน้ำตกริวเซ (Ryusei Falls) แห่งนี้ทำให้เราสามารถดื่มด่ำผ่อนคลายได้อย่างดี หรือจะเดินประมาณ 10-20 นาทีขึ้นไปยังจุดชมวิวเล็กๆ เพื่อชมน้ำตกในอีกมุมมองที่แตกต่างก็ได้เช่นกัน
![autumn-spot-hokkaido-2019-04 autumn-spot-hokkaido-2019-04](https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2019/08/autumn-spot-hokkaido-2019-04-500x333.jpg)
หุบเขาโซอุนเคียว (Sounkyo Valley),ฮอกไกโด (Hokkaido)
หุบเขาโซอุนเคียว (Sounkyo Valley) โดยสารกระเช้าลอยฟ้าไปบนคุโรดาเคะ (Kurodake) ในระหว่างที่อยู่ในกระเช้า จะสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่บริเวณด้านล่างของกระเช้าได้ ด้านบนสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปไปชมแนวเขาอันสลับซับซ้อนที่แต่งแต้มไปด้วยสีสันแห่งใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเต็มตา รวมถึงในระหว่างที่ขึ้นหรือลงกระเช้าลอยฟ้าก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีในอีกมุมมองที่ต่างกันออกไป
โจซังเค (Jozankei),ฮอกไกโด (Hokkaido)
![autumn-spot-hokkaido-2019-07 autumn-spot-hokkaido-2019-07](https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2019/08/autumn-spot-hokkaido-2019-07-500x333.jpg)
ย่านโจซังเค (Jozankei) เป็นแห่งอนเซ็นที่มีชื่อติดอันดับและเป็นที่รู้จักสำหรับนักเดินทาง ย่านแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโร (Sapporo) ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนั้นต้นไม้โดยรอบก็จะเปลี่ยนสีทั่วไปทั้งบริเวณ ย่านโจซังเค (Jozankei) มีแหล่งน้ำพุร้อน 56 แห่งซึ่งพ่นน้ำแร่อุณหภูมิ 60-80 ºC ปริมาณถึง 8,600 ลิตรทุกนาที การเปิดบ่อน้ำพุร้อนเกิดขึ้นตั้งแต่โบราณสมัยเริ่มต้นเมื่อครั้งที่พระธุดงค์สร้างโรงน้ำพุร้อนบำบัดขึ้นในปีค.ศ.1866 และน้ำอนเซ็นของย่านโจซังเค (Jozankei) มีแร่ธาตุสูง ไม่มีสี และใสสะอาดเป็นอย่างมาก และยังเป็นย่านที่มีสถานที่ท่องเที่ยวซ่อนอยู่มากมาย
เขื่อนโฮเฮเคียว (Hoheikyo Dam),ฮอกไกโด (Hokkaido)
![autumn-spot-hokkaido-2019-09 autumn-spot-hokkaido-2019-09](https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2019/08/autumn-spot-hokkaido-2019-09-500x333.jpg)
เขื่อนโฮเฮเคียว (Hoheikyo Dam)ได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ใน 100 เขื่อนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เขื่อนโฮเฮเคียว สร้างขึ้นในปี 1972 มีสูง 102.5 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยใช้แม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) เพื่อการชลประทาน ผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อควบคุมน้ำท่วม อ่างเก็บน้ำที่อยู่จากสร้างเขื่อนเรียกว่าทะเลสาบโจซัง (Jozan Lake) ซึ่งล้อมรอบด้วยป่าไม้และภูเขาสูง จากปากทางเข้าเขื่อนถึงตัวเขื่อนระยะทางประมาณ 2 กม.เป็นเขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงห้ามนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานเข้ามาตลอดทั้งปี ดังนั้น ต้องเดินด้วยเท้าหรือใช้บริการรถเมล์ไฟฟ้า บริเวณโดยรอบเขื่อนแวดล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของสันเขาหินสูงชัน รวมกับโชว์การปล่อยนํ้าออกจากเขื่อนอันทรงพลัง ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบเขื่อนก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงตัดกับสีเทาของตัวเขื่อนและสีฟ้าจากท้องฟ้าและน้ำในเขื่อนเกิดเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจ
เส้นทางฟุตะมิ โจซัง (Futami Jozan Road),ฮอกไกโด (Hokkaido)
เส้นทางฟุตะมิ โจซัง (Futami Jozan Road) เส้นทางเดินริมแม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือสะพานแขวนฟุตะมิ (Futamii Suspension Bridge) ที่ข้ามแม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) พื้นที่โดยรอบนั้นประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพันธุ์กว่า 800 ชนิด นอกจากนี้ที่นี่ยังมีตำนานของสิ่งมีชีวิตอย่าง คัปปะ (Kappa) ซึ่งเล่าขานกันเป็นวงกว้างในญี่ปุ่นมาตั้งแต่โบราณ จึงจะเห็นรูปปั้นคัปปะได้ตามรอบบริเวณแห่งนี้อีกด้วย
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park),ฮอกไกโด (Hokkaido)
![autumn-spot-hokkaido-2019-14 autumn-spot-hokkaido-2019-14](https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2019/08/autumn-spot-hokkaido-2019-14-500x333.jpg)
ขอบคุณข้อมูลจาก JNTO
โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น คลิกที่นี่
สำหรับท่านใดที่สนใจ โปรแกรมทัวร์ ต้องการ จองตั๋วเครื่องบิน หรือ ที่พัก สามารถสอบถามทางJourney Trip ของเราได้ เรามีโปรแกรมให้ท่านเลือกมากมาย รับรองว่าไม่ผิดหวัง อย่างแน่นอน
Leave a Reply