จุดเช็คอินห้ามพลาด จ.อ่างทอง
1. วัดต้นสน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางศาสนา ของจังหวัดอ่างทอง วัดติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร พระนามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตตรธัมมบดีศรีเมืองทอง หรือเรียกชื่อย่อว่า “สมเด็จพระศรีเมืองทอง”
2. ศูนย์ตุ๊กตาชาววังหมู่บ้านบางเสด็จ
เรือนไทยทรงสูงที่ดูงดงามและมีเอกลักษณ์แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ ตั้งอยู่ทางด้านหลังวัดท่าสุทธาวาส ในพื้นที่ตำบลบ้านบางเสด็จ โดยตำบลนี้เดิมชื่อบ้านวัดตาล ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อบ้านบางเสด็จเพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในปี พ.ศ.2518 โดยโครงการตุ๊กตาชาววังที่บ้านบางเสด็จเป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2519 เพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ราษฎร ภายในหมู่บ้านบางเสด็จ
3. บ้านบางเจ้าฉ่า
ภาพจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง
ชุมชนบางเจ้าฉ่าเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยชาวบ้านได้ร่วมรบกับชาวบ้านบางระจันก่อนจะมาตั้งถิ่นฐานกันที่นี่ ความพิเศษของชุมชนนี้คือ ภูมิปัญญาการจักสานไม้ไผ่ ทุกวันนี้มีการประยุกต์ดีไซน์จนเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ซึ่งหัวแรงหลักของชุมชนคือ ครูอ๊อด คนรุ่นใหม่ที่มาสืบสานภูมิปัญญาและเปิดสอนให้กับเยาวชนและผู้สนใจได้เรียนรู้มาหลายรุ่น
4. ไร่นาส่วนผสม สมจิตภาพจาก : lovethailand.org
ที่นี่ได้รับรางวัลแปลงไร่นาสวนผสมและผู้หญิงเกษตร สาขาเกษตรระดับชาติประจำปี 2544 คุณสมจิตทำไร่นาสวนผสมหลายอย่างบนพื้นที่ประมาณ 13 ไร่ นา 10 ไร่ เน้นการผลิตมะม่วงทะวาย เช่น พันธุ์เศรษฐี ทะวาย โชคอนันต์ น้ำดอกไม้มัน ส้มโอ ส้มเขียวหวาน
5. หมู่บ้านกลองเอกราชภาพจาก : Thailand tourism directory
ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านผลิตกลองที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดในประเทศไทย โดยชาวบ้านนิยมทำเป็นอาชีพเสริม หลังฤดูเก็บเกี่ยวนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 กลองของที่นี่ทำจากไม้ฉำฉา เพราะเป็นไม้เนื้ออ่อนที่ สามารถขุดเนื้อไม้ได้ง่ายและอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญ คือ หนังวัว ที่ต้องเตรียมไว้สำหรับขึงทำหน้ากลอง การมาเยี่ยมชมหมู่บ้านทำกลองแห่งนี้ สามารถเข้าชมกรรมวิธีการทำกลอง ตั้งแต่เริ่มกลึงท่อนไม้ ไปจนถึงขั้นตอนการขึ้นกลอง การฝังหมุด สำหรับกลองที่ทำมีตั้งแต่ขนาดเล็กถึงใหญ่ เช่น กลองทัด กลองสั้น กลองยาว กลองรำวง และกลองเพลที่ใช้ในวัด จนกระทั่งกลองขนาดเล็กจิ๋วสำหรับเป็นของที่ระลึก คุณจะเห็นถึงฝีมือการทำกลองที่ได้คุณภาพ ประณีต สวยงาม และยังสามารถซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย
6. วัดสังกระต่าย
เป็นวัดร้างที่เหลือแต่โบสถ์โบราณมีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันไม่มีหลังคาโบสถ์แล้ว แต่ตัวโบสถ์เป็นปูนนั้นไม่พังลงมา เพราะมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 4 ต้น ใช้รากยึดตัวโบสถ์จนแน่น โดยเมื่อมองอยู่ห่างๆ จะเห็นเหมือนมีเพียงต้นโพธิ์ แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าด้านล่างต้นโพธิ์เป็นโบสถ์โบราณสมัยอยุธยา ดูคลาสสิกมากๆ
7. บ้านหุ่นเหล็กภาพจาก : Thailand tourism directory
ที่นี่เกิดจากความตั้งใจของคุณไพโรจน์ ถนอมวงษ์ เมื่อปี พ.ส.2543 ซึ่งมีความคิดอยากสร้างประติมากรรมเป็นของตนเอง โดยประดิษฐ์จากเศษเหล็ก อะไหล์เก่าๆ ของเครื่องยนต์ จึงเกิดเป็นผลงานชิ้นแรก คือ รถมอเตอร์ไซด์เหล็กตั้งโชว์คันจิ๋ว โดยคุณไพโรจน์ฯ ได้พัฒนา ออกแบบ และทดลอง รวมทั้งลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้ มีผลงานออกมามากมาย จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก หุ่นยนต์เท่ๆทั้งนั้นเลย ใครที่ชอบทรานฟอร์มเมอร์ส ต้องมาชมให้ได้นะ เหมือนมาก
8. วัดขุนอินทประมูล
วัดนี้เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัย กรุงสุโขทัย พิจารณาจากซากอิฐแนวเขตเดิมคะเนว่าเป็นวัดขนาดใหญ่ มีความยาวถึง ๕๐ เมตร ซึ่งนับเป็นพระนอน หรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คือ พระนอนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง จ. สมุทรปราการ เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ถูกไฟไหม้ปรักหักพังไปเหลือแต่องค์พระตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมานานนับเป็นร้อยๆ ปี องค์พระพุทธรูปมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับพระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน องค์พระนอน มีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น น่าเลื่อมใส
9. ตลาดศาลเจ้าโรงทอง
ชุมชนเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดอ่างทอง ตั้งอยู่บนริมแม่น้ำน้อย ตัวตลาดยังปรากฏให้เห็น ร่องรอยอดีต บ้านเรือนที่เป็นไม้ ร้านค้าที่จัดเรียงสินค้าตามแบบเก่าๆ ทั้งผู้คนที่ยังอยู่อาศัยในพื้นที่ก็ยังมีคนเก่าคนแก่ ให้ได้หยุดสนทนาถึงความเป็นไปของตลาดในกาลเวลาที่ล่วงเลยมาแล้ว ถึงแม้ตลาดจะมีอายุนับร้อยปี แต่ทว่าชุมชนแห่งนี้ก็ยังคงสืบทอดเสน่ห์ของตลาดไว้ได้เป็นอย่างดี ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของหวาน ขนมไทย นานาชนิด ใครที่เป็นสายหวาน มาที่นี่รับรองว่าฟิน เพราะมีขนมไทยหลากชนิดให้คุณเลือกมากมายเลยทีเดียว โดยเฉพาะขนมเกสรลำเจียก ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของตลาดศาลเจ้าโรงทองเลยนะ
10. วัดม่วง
ไฮไลท์ของที่นี่นั่นคือการมาสักการะ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความสูงถึง 95 เมตร ขนาดหน้าตักกว้าง 63.5 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 16 ปี โดยถ้าเทียบเป็นตึก นั่นคือมีความสูงมากถึง 32 ชั้นเลยทีเดียว เชื่อว่า ถ้ามีโอกาสได้มาสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์พระใหญ่ (พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ) จะมีความเชื่อกันว่า ขอให้ท่านประทานพรให้เติบโต เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน
CR: Tourism Thailand
ทัวร์ในประเทศคลิ๊ก https://bit.ly/30SpcPN
Leave a Reply