อุทยานธรณีโลกอิซุ (Izu Peninsula Global Geopark), ชิซุโอกะ ญี่ปุ่น
จุดหมายแห่งการเดินทางแสนสนุกทั้งบนผืนดินและในท้องทะเล!
คาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) คือดินแดนมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติอันงดงาม แวดล้อมไปด้วยภูเขาเขียวชอุ่มและท้องทะเลสีคราม ไม่ว่าจะเลือกลงเล่นน้ำอุ่นๆ ดำน้ำในท้องทะเลกว้าง หรือจะเดินป่าไปตามลักษณะภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงเด่น การผจญภัยแสนสนุกก็รออยู่เสมอ ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมายที่รอให้ไปค้นพบ และจะได้พบกับเสน่ห์ใหม่ๆ เสมอทุกครั้งที่มาเยือน ธรรมชาติอันหลากหลายทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งศึกษาทางธรณีวิทยาที่สำคัญ และด้วยลักษณะทางธรณีวิทยาที่แปลกตาหาดูได้ยาก ยูเนสโกจึงได้ประกาศให้ที่นี่เป็นอุทยานธรณีโลก* ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2018 จึงอยากแนะนำสถานที่ใหม่ๆที่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว (Tokyo) นั้นก้คือ คาบสมุทรอิซุแห่งนี้และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่าที่นี่มีเสน่ห์อย่างไรจึงไม่ควรพลาดที่จะอยู่ในแผนการเดินทางเมื่อมาเยือนที่ ชิซุโอกะ จังหวัดญี่ปุ่น
ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลักษณะทางภูมิประเทศอันบริสุทธิ์
และงดงามแปลกตา
คาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) คือคาบสมุทรที่ยื่นออกสู่มหาสมุทรลงไปทางทิศใต้ประมาณ 60 กิโลเมตรจากบริเวณปลายแหลมทางทิศตะวันออกของจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ซึ่งเป็นฐานที่ไกลที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ด้วยแนวชายฝั่งที่ยาวถึง 318 กิโลเมตร คาบสมุทรแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยชายหาดระดับโลกมากมายที่นับว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น
ชายหาดบนคาบสมุทรอิซุงดงามด้วยเสน่ห์อันหลากหลายแตกต่างกันจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ชายฝั่งทางเหนือนั้นเต็มไปด้วยอ่าวเล็กๆ จำนวนมากซึ่งทำให้คลื่นที่นี่มีลักษณะนุ่มนวลอ่อนโยนกว่า จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัวที่พาเด็กๆ มาเล่นน้ำทะเล หรือมาดูและไล่จับปู ปลาและหอยตัวจิ๋วทั้งหลายที่มีอยู่ชุกชุมบริเวณนี้
© Izu Peninsula Geopark
ไกลออกไปทางทิศใต้ คลื่นที่นี่จะใหญ่กว่า ทำให้ชายหาดทางฝั่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำอย่างเช่นการโต้คลื่น (surf) และบอดี้บอร์ด (bodyboard) ไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหนบนแนวชายฝั่ง คาบสมุทรอิซุแห่งนี้ก็คือแหล่งดำน้ำยอดนิยมทั้งแบบดำน้ำตื้น (snorkeling) และดำน้ำลึก (scuba diving) นอกจากจะเพื่อเล่นน้ำทะเลที่ใสสะอาดแล้ว ผู้คนยังนิยมมารวมตัวกันที่สถานที่ซึ่งอยู่เกือบใจกลางญี่ปุ่นแห่งนี้เพื่อจะได้ดูปลาทะเลในเขตหนาวจัด (cold-water fish) จากทางเหนือของประเทศ และปลาทะเลในเขตน้ำอุ่น (warm-water fish) จากชายฝั่งทางทิศใต้อีกด้วย
กล่าวง่ายๆ ได้ว่าคาบสมุทรอิซุเป็นที่รู้จักกันในฐานะของสถานที่สำหรับเล่นสนุกกับกิจกรรมทางน้ำอันไม่มีที่สิ้นสุด ตั้งแต่การพาครอบครัวไปเที่ยวเล่นสบายๆ ตามชายหาด ไปจนถึงกีฬาจริงจังอย่างการเล่นกระดานโต้คลื่น บอดี้บอร์ด หรือการดำน้ำอยู่ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตอันหลากหลายในท้องทะเล ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าสนุกสนานเพลิดเพลินจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียวว่าจะเริ่มจากกิจกรรมไหนก่อนกัน
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเล่นน้ำและกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ
ที่บริเวณคาบสมุทรอิซุแห่งนี้คือช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน
© Izu Peninsula Geopark
© Izu Peninsula Geopark
ยังมีกิจกรรมทางน้ำแสนสนุกอีกมากมายที่รอคอยคุณอยู่ที่คาบสมุทรอิซุแห่งนี้ การล่องเรือสำราญชมแหล่งธรณีวิทยา (Geosite Cruise) จะพาคุณออกสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล ในขณะที่การพายเรือคายัคจะทำให้คุณได้เข้าใกล้หน้าผาต่างๆ ซึ่งไม่มีทางจะเข้าถึงได้จากเส้นทางบนบก
นอกจากนี้ยังมีบริการนำเที่ยวโดยเจ้าหน้าที่มัคคุเทศก์ประจำอุทยานธรณีคาบสมุทรอิซุที่จะพาคุณไปชมภูมิทัศน์อันหลากหลายของที่นี่อีกด้วย ถ้ำทะเลริวกู (Ryugu Ocean Cave) ซึ่งแปลว่าถ้ำวังมังกรนั้นเป็นถ้ำขนาดใหญ่ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 50 เมตร แสงที่ลอดผ่านลงมาตามรอยแยกเพดานถ้ำก่อให้เกิดบรรยายลึกลับน่าประทับใจมิรู้ลืม เจ้าหน้าที่จะคอยอธิบายลักษณะทางธรณีวิทยาที่สำคัญๆ ของที่นี่ เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอุทยานธรณีแห่งนี้อย่างลึกซึ้งและสนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำภายใต้แสงอาทิตย์ได้มากยิ่งขึ้น
ฤดูร้อนคือฤดูที่คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของคาบสมุทรอิซุได้ดีที่สุด
© Izu Peninsula Geopark
การใช้เวลาในช่วงวันหยุดแสนสุขบนชายหาดและกิจกรรมกีฬาทางน้ำเท่านั้น แต่คาบสมุทรอิซุยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมาก และกิจกรรมบนบกก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ในบางพื้นที่ภูเขาน้อยใหญ่หยั่งฐานลงสู่ทะเลลึก ส่งผลให้ภูมิทัศน์บริเวณนั้นๆ แลดูแปลกตาและง่ายต่อการเล่นสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งบนแผ่นดินและในท้องทะเล
นอกจากการท่องไปในท้องทะเลกว้างแล้ว บริการนำเที่ยวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานธรณีคาบสมุทรอีกรายการหนึ่งก็จะพาคุณขึ้นไปบนภูเขาเช่นกัน คุณสามารถเลือกทัวร์เดินป่าขึ้นเขาเพื่อชมความงามอันน่าประหลาดใจของ “ธารน้ำผุดไหลย้อน (inverted spring)” หรือแหล่งน้ำที่ผุดขึ้นมาตามธรรมชาติแล้วไหลเป็นลำธารย้อนขึ้นสู่ด้านบนภูเขา ป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยต้นเอเวอร์กรีนโอ๊ค (Evergreen Oak) และต้นฮิเมะชะระ (Himeshara) หรือสาละญี่ปุ่น และเหล่าต้นบีชญี่ปุ่นอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี
หากเดินขึ้นเขามุ่งหน้าสู่ยอดเขาอะมะงิ (Mt. Amagi) ที่ความสูง 1,045 เมตร รับรองได้ว่าคุณจะได้พบกับแง่มุมที่น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างแน่นอน ลองเดินเข้าไปท่ามกลางป่าบีชญี่ปุ่นอันแสนกว้างใหญ่และมองเข้าไปตามรอยเลื่อนของเปลือกโลกซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่ากบต้นไม้สีเขียว (Forest green tree frogs) (อนุสรณ์ทางธรรมชาติอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น) คุณจะได้เห็นภาพความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
เนื่องจากคาบสมุทรอิซุมีลักษณะทางภูมิประเทศที่มีความสูงของแผ่นดินแตกต่างกันไปตามพื้นที่ ทำให้มีสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย รวมถึงมีสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ที่หลากหลายมากเป็นพิเศษ การได้สัมผัสกับโฉมหน้าต่างๆ ของธรรมชาติเช่นนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการเดินทางท่องเที่ยวภาคพื้นดินของที่นี่ค่ะ
หลังจากเต็มอิ่มกับกิจกรรมทั้งบนบกและในท้องทะเลกันแล้ว ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่น้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายและคืนความสดชื่นให้กับร่างกายกัน ซึ่งน้ำพุร้อนอิซุซัง (Izusan Hot Spring) เป็นน้ำพุร้อนที่ถูกค้นพบมาเป็นเวลานานกว่า 1,000 ปีแล้ว ในขณะที่หมู่บ้านน้ำพุร้อนอะตะมิ (Atami Hot Spring Village) นั้นเป็นแหล่งแช่อนเซ็นที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
คาบสมุทรอิซุเปี่ยมไปด้วยพรั่งพร้อมไปด้วยกิจกรรมแสนสนุกทั้งบนบกและในทะเลมากมายที่ล้วนใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากลักษณะภูมิประเทศที่แปลกตาและเปี่ยมด้วยมนตร์ขลังจนได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานธรณีโลก รับรองว่าคุณจะต้องอยากเที่ยวชมและใช้เวลาสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงแนะนำให้มาหลายวันเป็นทริปที่ยาวสักหน่อยจะดีกว่า และหากเป็นไปได้ก็ควรจะมาในช่วงฤดูร้อนเพื่อที่จะสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหลายได้อย่างเต็มที่
** 1 อุทยานธรณีโลกยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) คือพื้นที่ที่ยูเนสโกกำหนดขึ้นเพื่อบอกให้โลกได้รู้ถึงความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันระหว่างผู้คนและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษา วิจัย การท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย มีการอนุรักษ์ชั้นทางธรณีวิทยา (geological strata) หินรูปร่างต่างๆ ภูเขาไฟ รอยเลื่อนของเปลือกโลก และสินทรัพย์ทางธรณีวิทยาอื่นๆ และนำเสนอโอกาสอันแสนพิเศษสำหรับการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการศึกษาด้านการเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ และในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกอยู่ทั้งหมด 140 แห่งใน 38 ประเทศ ในจำนวนนี้อยู่ในประเทศญี่ปุ่น 9 แห่ง ซึ่งรวมถึงคาบสมุทรอิซุนี้ด้วย**
ข้อมูลจาก : https://www.jnto.or.th/
สำหรับท่านใดที่สนใจ โปรแกรมทัวร์ ต้องการ จองตั๋วเครื่องบิน หรือ ที่พัก สามารถสอบถามทาง Journey Trip ของเราได้ เรามีโปรแกรมให้ท่านเลือกมากมาย รับรองว่าไม่ผิดหวัง อย่างแน่นอน
Leave a Reply